1503 จำนวนผู้เข้าชม |
การจัดวางองค์ประกอบแบบ จุดศูนย์รวม
เทคนิคนี้เป็นการช่วยให้คนดูเพลิดเพลินไปกับการกวาดสายตาในการมองภาพโดยรอบ แล้วไปรวมที่จุดใดจุดหนึ่ง เพิ่มลูกเล่นให้หน้ามองผ่านการจัดวางองค์ประกอบ
ใช้ขาตั้งกล้องเพื่อคงตำแหน่งที่ดีที่สุด
เป็นการยากมากที่จะสามารถบังคับให้มือนิ่งที่สุดตัวช่วยที่สามารถทำให้การถ่ายที่ต้องใช่ความนิ่งเป็นหลัก จึงต้องมีตัวช่วยเข้ามาเพิ่มนั้นก็คือขาตั้งกล้อง
อีกทั้ง ขาตั้งกล้องยังช่วยให้สามารถถ่ายภาพในพื้นที่ที่จำกัดได้ดีอีกด้วย ในกรณีที่ต้องถ่ายในห้องที่มีพื้นที่ค่อนข้างน้อย
การตั้งค่าความเร็วชัดเตอร์ และ iso
การตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงอาจทำให้แสงเข้าได้มากขึ้น แต่ก็ส่งผลทำให้ภาพเกิดการเบลอเกิดขึ้นได้ (ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย)
หากต้องการโฟกัสให้กับองค์ประกอบที่อยู่ตรงหน้าไม่เบลอ สิ่งที่ต้องทำคือการปรับความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้นแต่ก็ต้องแลกกับแสงที่น้อยตามมาด้วย
ปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำไป --- ภาพอาจเบลอ (ใช้ขาตั้งกล้องช่วยได้)
ปรับความเร็วชัตเตอร์สูงไป --- ภาพจะมืด ทำให้ต้องดันรูรับแสงลง ดัน ISO ขึ้น อาจทำให้ได้ภาพที่ไม่คมชัดจนเกิด noise
ตัวอย่างในการตั้งค่ากล้อง
ความเร็วชัดเตอร์ 1/15 - 1/30
รู้รับแสง F5.6 - F11 แล้วแต่สถานการณ์
ISO ไม่ควรเกิน 1000 เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด ไม่เกิด noise
พื้นที่จำกัด tilt-shift lens ช่วยได้
ช่างภาพแนว interior ส่วนใหญ่มักรู้จักและใช้เลนส์ชนิดนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นอีก 1 ตัวช่วยที่ดีมาก ๆ สำหรับการถ่ายภาพในพื้นที่ ๆ จำกัด และสามารถช่วยให้เกิดความสมดุลของเส้นมุมต่างๆได้อย่างพอดี
ใช้แสงจากธรรมชาติเน้นความสมจริง
โดยเฉพาะห้องส่วนที่อยู่ใกล้กับหน้าต่างหรือที่ ที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้จะทำให้ภาพโดยรวมดูมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น
และเพื่อให้ได้ช่วงไดนามิกที่สูง ควรปิดไฟทั้งหมดที่เปิดไว้ ลดแสงที่อาจจะทำให้เกิดการบิดเบือนความสมจริง
เน้นเส้นนำสายตาให้ตรงที่สุด
เป็นอีก 1 แนวทางที่จะช่วยให้ภาพภายในบ้านออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการถ่ายภาพโดยเน้นไปที่เส้นนำสายตา แล้วพยายามเน้นที่เส้นขอบหรือมุมต่างๆของภาพ ให้เป็นเส้นตรงทั้งแนวดิ่งและแนวนอน ในขนาดที่สมส่วน
อาจจะใช้เส้น grid ที่เป็นตารางเป็นตัวช่วยในการกำหนดความตรงของของเส้นต่างๆของพื้นที่ในภาพได้
การตั้งค่ารูปรับแสง เพิ่มความคมชัดสูงสุด
เนื่องจากการถ่ายภาพ interior ในบางครั้งหากต้องการความคมชัดที่มากขึ้น การปรับ f stop ที่สูงขึ้นการถ่ายภาพ interior ในช่วง f / 8 ถึง f / 16 จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่าย
การถ่ายแบบ RAW จะได้ภาพที่มีคุณภาพสูง
นอกจากจะได้ไฟล์ที่มีรายละเอียดคมชัดแล้ว ยังสามารถช่วยควบคุมการเบลอ หรือช่วยให้สามารถปรับสมดุลแสงสีขาวได้อย่างแม่นยำอีกทั้งยังเหมาะแก่การนำไฟล์ไปใช้ในงานต่างๆได้หลากหลาย