726 จำนวนผู้เข้าชม |
บอดี้ขนาดเล็กพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 465 กรัมและมีขนาดเพียง กว้าง 126 mm, สูง 85 mm, หนา 65 mm อีกทั้งยังมี Grip ที่ถูก ดีไซน์ใหม่ให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น
ระบบกันสั่นที่มีมาให้ถึง 5 แกนด้วยกัน โดยทางฟูจิฟิล์มการันตีว่าสามารถลดการสั่นได้มากสูงสุดถึง 6.5 Stop (ถ้าใช้กับเลนส์ที่มีกันสั่นเหมือนกัน)
Film simulation 18 แบบ ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ตามฉบับของฟูจิฟิล์ม
Film สีใหม่ Classic Neg. / Eterna bleach by pass ถูกถอดแบบมาจากกล้องรุ่นพี่ x-pro3 เป็นสีที่ได้รับความนิยม ใก้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปช่วงที่ยังใช้กล้องฟิล์มกันอยู่
และทั้งหมดนี้ สามารถใช้งานโหมดนี้ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ตอบโจทย์และสะดวกมาก ๆ เลยใช่มั้ยค้า
ฟีเจอร์พิเศษ Film bracketing คือการถ่ายครั้งเดียว และได้สีฟิล์มถึง 3 แบบด้วยกัน
ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ในง่าย ๆ ในตัวกล้องเลย ทำให้เราได้เลือกสีที่เราชอบถึง 3 แบบ ออกมาการลั่นชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว
เรื่องของการโฟกัสไว้ใจได้อย่างเที่ยวตรง ด้วยระบบ
Phase detection ตรวจจับใบหน้า ได้อย่างแม่นยำ
และ Eye AF ตรวจจับดวงหน้าได้อย่างรวดเร็ว จับเทียบชั้นกับกล้องรุ่นพี่อย่าง XT4 ได้อย่างสบาย
พอร์ตที่ให้มาก็จัดเต็ม
ช่องเสียบไมค์ขนาดมาตรฐาน 3.5 mm อีกทั้งกล้องถูกออกแบบมาให้เวลาต่อไมค์แยก ยังสามารถพับจอได้ (ซึ่งกล้องรุ่นอื่น ๆ บางรุ่นจะพับจอไม่ได้)
ช่องเสียบ USB type C สามารถชาร์จผ่านไฟบ้าน หรือ Power bank ได้โดยตรงเลย ซึ่งถือว่าสะดวกมากกก (แต่ในขณะชาร์จอยู่ กล้องจะไม่ทำงานนะค้า)
ช่องเสียบ HDMI เป็นแบบ clean hdmi ซึ่งสะดวก ๆ มาก ๆ สำหรับใครที่ต้องไลฟ์สดหรือทำ Vlog ต่าง ๆ
Video ก็โหดไม่แพ้ใคร
สามารถถ่าย 4K แบบ DCI และ UHD สูงสุดที่ 30P
FHD 60P และถ่าย Slow motion ได้สูงสุดถึง 10 เท่า ที่ 240P
และที่สำคัญ รองรับการถ่ายวิดีที่เป็น F-Log ซึ่งสามารถทำให้เราทำ Color Grading ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย ผ่านโปรแกรม premiere Pro, DaVinci Resolve
จอแสดงผลแบบ Vari-angle (พับจอและหมุนจอได้ทุกด้าน) ทำให้เราถ่าย Selfie หรือ Vlog ได้ง่ายขึ้น
รองรับระบบ Touchscreen ความละเอียด 1.04m dot
ช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียด 2.36m dot