8322 จำนวนผู้เข้าชม |
มนต์เสน่ห์บนท้องฟ้ามีไม่รู้จบ และมีหลายๆอย่าง ที่เราก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้แล้วจะไปหาคำตอบทำไมให้ปวดหัว ในเมื่อเราสามารถดื่มด่ำความสวยงามตระการตาบนท้องได้อย่างไม่มีวันหมด วันนี้Avcenter จะมาบอกวิธีการถ่าย "ช้างเผือก" มนต์เสน่ห์ บนท้องฟ้าที่สามารถสัมผัสได้ด้วยตามาฝากกันค่ะ
1. ช่วงเวลา
ทางช้างเผือกจะไม่ปรากฏตลอดทั้งปี โดยส่วนมากจะเห็นได้ในช่วงกถมภาพันธ์-กันยายน
2. โหมดmanual
ปรับให้เป็นโหมดแมนวล
M4/3 : 300 หารด้วยทางยาวโฟกัสเลนส์ = ระยะเวลาการถ่าย/Shutter Speed
APSC : 400 หารด้วยทางยาวโฟกัสเลนส์ = ระยะเวลาการถ่าย/Shutter Speed
Full Frame: 600 หารด้วยทางยาวโฟกัสเลนส์ = ระยะเวลาการถ่าย/Shutter Speed
ตัวอย่างเช่น ผมใช้กล้องที่มีเซ็นเซอร์แบบ Fullframe ใช้เลนส์ช่วงกว้างสุดที่ 16mm ก็จะเป็น 600/16 = 37.5 เพราะฉะนั้นผมจะใช้ชัตเตอร์สปีดได้สูงสุด 37.5 วินาที โดยที่ดาวยังไม่ยืด นั่นเอง
3. ฉากหน้าก็สำคัญนะ
การถ่ายทางช้างเผือกไม่ควรเล็งไปแค่ท้องฟ้า ฉากหน้าจะเพิ่มความหน้าสนใจของภาพให้ดูไม่เบื่อ และทำให้ภาพมีเรื่องราวมากขึ้น
4. แอพล่าทางช้างเผือก
จะถ่ายทางช้างเผือกทั้งทีต้องเตรียมตัวให้พร้อม ควรมีแอพดูตำแหน่งของดวงดาวหรือตำแหน่งของทางช้างเผือก เช่น SkySafari5 , Night Sky เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดภาพสวยๆ
5. เลนส์
ควรใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างๆ เช่น f/2.8 เพราะยิ่งเลนส์มุมกว้างมากๆจะเก็บรายละเอียดภาพได้เยอะ
6. Live view
ถ้ามั่นใจว่าฟ้ามืดและดาวพอ เปิดโหมด Live view
พยายามหาจุดโฟกัส เล็งไปที่ตัววัตถุที่ต้องการถ่าย และค่อยๆ หมุนวงแหวนโฟกัสจนกว่าดวงดาวจะคมชัด
7. สปีดชัดเตอร์
การถ่ายดาวแบบนี้จะมีตั้งค่าและการใช้สปีดชัตเตอร์ต่างจากการถ่ายดาวรูปแบบอื่นนิดหน่อย เพราะการถ่ายต้องใช้สปีดที่นานกว่าในการถ่ายดาวรูปแบบอื่น และต้องใช้รูรับแสงที่แคบลง ISO น้อยๆ เพื่อให้แสงดาวที่มีแสงสว่างน้อยไม่มากวนดาวที่มีแสงสว่างเส้นดาวที่ต้องการ
8. ขาตั้ง
ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งสำคัญมาก การถ่ายทางช้างเผือกปกติจะใช้ความเร็วชัตเตอร์ 20-40 วินาที การที่มีขาตั้งจะช่วยให้กล้องนิ่ง ภาพที่ได้จะไม่เบลอ