1061 จำนวนผู้เข้าชม |
ว่ากันในเรื่องของแสง มักเป็นปัญหาหลักของเหล่าช่างภาพ เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากมาก จึงต้องมีอุปกรณ์ในการถ่ายภาพเข้ามาช่วยมากมายอย่าง แฟลช ขาตั้ง เลนส์ฟิลเตอร์ และ อื่น ๆ
แต่แสงที่เหล่าช่วงภาพเห็นแล้วต้องหลงใหล นั่นก็คือแสงแฟลร์ (Flare) เพราะแสงชนิดนี้ให้องค์ประกอบของภาพชวนให้น่าหลงใหลมากขึ้น และมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก
วันนี้แอดมินมีเคล็ดไม่ลับการถ่ายภาพให้เกิดแสงแฟลร์สวย ๆ ไปลองชมกันเลยค่า
เลือกมุมให้ดีภาพสวยขึ้นหลายเท่า
แสงแฟลร์เกิดจากตัวกล้องหันเข้าแสงแดดมากทำให้เกิดแสงจ้าในภาพ มุมที่ดีคือมุมที่มีความพอดีที่สามารถทำให้เกิดแสงแฟลร์ที่พอดีไม่มาก และไม่น้อยจนไม่เกิดแสงแฟร์ เพราะหากแสงจ้าเกินไปก็จะทำให้ภาพมีความคมชัดน้อยลง
โลเคชั่นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
แสงแฟลร์ที่รอดผ่านต้นไม้ ซอกตึก ภูเขา ล้วนสร้างเรื่องให้น่าสนใจ สถานที่และบริบทโดยรอบจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยดึงให้ภาพมีเรื่องราวและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
การใช้รูปแบบการตั้งค่าแบบ Manual (กำหนดเอง)
โหมด Manual จะเป็นการช่วยปรับแต่งค่าแบบอัตโนมัติและจะช่วยทำให้เกิดโอกาสที่จะเกิดแสงแฟลร์ที่ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
งดใช้อุปกรณ์กล้องที่ช่วยบังแดด
แสงแฟลร์มักเป็นแสงกวนใจของช่างภาพมืออาชีพ เพราะด้วยรูปแบบของลักษณะงานที่ทำส่วนใหญ่มักต้องโชว์รายละเอียดของภาพ
การที่ช่างภาพส่วนใหญ่เมื่อต้องออกไปทำงานกลางแจ้ง Hood ครอบเลนส์จึงเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์ได้
เมื่อต้องการถ่ายภาพ flare Photography การที่มี Hood lens ก็จะทำให้เกิดแสงแฟลร์ได้ยาก
เลือกช่วงเวลาแสง Golden Hour เพิ่มความน่าหลงไหล
แสงจากดวงอาทิตย์สามารถแบ่งได้เป็นหลายช่วง สว่างมากสว่างน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาของวัน แต่แสงจากดวงอาทิตย์ที่แอดมินจะแนะนำในการถ่าย Flare Photography คือช่วง ใกล้เช้า กับ ใกล้ค่ำ เป็นช่วงที่แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทำให้สีของท้องฟ้ามีลักษณะเป็นสีชมพูอมส้มสวยงาม
เล่าเรื่องด้วยโทนสีภาพที่น่าหลงใหล
นอกจากแสงแฟลร์ที่ชวนน่าหลงใหลแล้ว การปรับโทนภาพให้เข้ากับบรรยากาศรอบ ๆ ตัวแบบ แสงแฟลร์ เป็นสิ่งที่ทำให้ภาพของเราสมบูรณ์มากขึ้น
จริง ๆ แล้ว แสงแฟลร์สามารถสร้างขึ้นมาได้เองง่าย ๆ โดยใช้ photoshop เครื่องมือยอดฮิตในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
ลองทำตามดูวิธีง่าย ๆ นะคะ
https://zhort.link/rwI